วิธีเลี้ยงลูกสำหรับคุณแม่มือใหม่

วิธีเลี้ยงลูกสำหรับคุณแม่มือใหม่

วิธีเลี้ยงลูกสำหรับคุณแม่มือใหม่หลังคลอด ซึ่งวิธีเลี้ยงลูกแรกเกิดเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องระมัดระวัง โดยเฉพาะการให้นมบุตร การฝึกการนอนหลับ และการดูแลสุขภาพ รวมถึงการตรวจหลังคลอดเพื่อความมั่นใจว่าทั้งคุณแม่และทารกจะปลอดภัย

วันนี้อินทัชเมดิแคร์เลยมัดคู่มือการเลี้ยงลูก รวมเคล็ดลับดีๆสำหรับคุณแม่มือใหม่ เลี้ยงลูกเองมาฝากกัน

7 วิธีเลี้ยงลูกสำหรับคุณแม่มือใหม่หลังคลอด

  1. การให้นมลูกและโภชนาการ สำคัญ
  2. วิธีอุ้มและจับลูกอย่างถูกต้อง
  3. เทคนิคช่วยให้ทารกหลับสนิท
  4. การดูแลความสะอาดร่างกายทารก
  5. การดูแลสุขภาพลูกน้อย สำคัญ
  6. สภาพแวดล้อมในการเลี้ยงลูก
  7. ข้อควรระวังในการเลี้ยงทารก

การให้นมลูกและโภชนาการ

การให้นมลูก

นับเป็นสิ่งแรกและเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก ซึ่งน้ำนมแม่นั้นก็มีผลต่อพัฒนาการของลูกน้อยในหลายๆส่วน  อีกทั้งหลังคลอดทารกแรกเกิดยังจำเป็นต้องดื่มนมบ่อยๆ ควรให้ลูกดูดทุก 2-3 ชั่วโมง หรือเมื่อลูกต้องการ แม้ว่าลูกจะหลับอยู่ ก็ต้องปลุกลูกขึ้นมากินนม และดื่มไม่น้อยกว่าครั้งละ 10-15 นาที 

การให้ลูกดูดนมแม่ก็เพื่อช่วยกระตุ้นการสร้างน้ำนมและหลั่งน้ำนม ให้มีอยู่ตลอดช่วงที่ยังให้นม โดยในช่วง 6 เดือนแรก สามารถให้ลูกดื่มนมแม่อย่างเดียวได้เลย เนื่องจากน้ำนมแม่นั้นมีสารอาหารที่เพียงพอต่อลูกน้อย

ส่วนอาหารเสริมอื่น ๆ ควรให้เริ่มทานในช่วง 6 เดือนหลังคลอดเป็นต้นไป

น้ำนมแม่ 3 ระยะ

น้ำนมแม่มี 3 ชนิด คือ

  • น้ำนมเหลือง (ช่วง 2-4 วันแรกหลังคลอด) มีโปรตีน แร่ธาตุ และภูมิต้านทานสูง ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตและลดอาการตัวเหลืองในทารก
  • น้ำนมระยะปรับเปลี่ยน (ช่วง 7-10 วัน ถึง 2 สัปดาห์หลังคลอด) มีน้ำตาล ไขมัน วิตามิน และพลังงานเพิ่มขึ้น
  • น้ำนมแท้ (หลัง 10 วัน หรือ 2 สัปดาห์เป็นต้นไป) มีน้ำเป็นส่วนประกอบหลัก 87% พร้อมสารอาหารครบถ้วนสำหรับการเจริญเติบโตของทารก

ข้อควรระวังในการให้นมลูก: ในช่วง 6 เดือนแรกไม่ได้จำเป็นต้องให้น้ำลูกดื่มบ่อย เพราะจะทำให้ลูกดื่มนมแม่ได้น้อยลง และส่งผลให้น้ำหนักตัวลูกน้อยกว่าเกณฑ์ และอาจทำให้ลูกติดเชื้อได้

อาหารที่คุณแม่ควรรับประทาน

อาหารที่ควรกินขณะให้นมลูก คุณควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และครบ 5 หมู่ เนื่องจากอาหารที่คุณแม่รับแระทานนั้นมีผลต่อการสร้างน้ำนมให้ลูกน้อย ได้แก่

  • นมจืด วันละ 2-3 แก้ว
  • เนื้อปลา
  • ตับ มื้อละ 4 ช้อนกินข้าว ตับมีวิตามินเอซึ่งมีส่วนในการสร้างน้ำนม
  • ผักที่ช่วยในการเพิ่มน้ำนม เช่น งาดำ กุ้ยช่าย ขิง ใบแมงลัก กะเพรา ฟักทอง มะรุม ผักกาดหอมและ หัวปลี เป็นต้ม
  • ผลไม้ ควรรับประทานเป็นของว่างทุกวัน โดยเลือกทานให้หลากหลายตามฤดูกาล เพื่อป้องกันท้องผูก
  • ไข่เป็ดหรือไข่ไก่ วันละ 1 ฟอง
  • ควรหลีกเลี่ยงอาหารบางชนิด เช่น คาเฟอีน อาหารหมักดอง อาหารทะเล อาหารรสจัด และควรปรึกษาแพทย์ก่อนทานยาหรืออาหารเสริม
บริการตรวจหลังคลอดที่คลินิก

วิธีอุ้มและจับลูกอย่างถูกต้อง

การอุ้มลูกน้อยก็ถือเป็นวิชาพื้นฐานในการเลี้ยงลูก ซึ่งการอุ้มก็มีหลายแบบ โดยหลักๆที่คุณมือใหม่คุณรู้ ได้แก่

การอุ้มแบบปกติ

  1. จับทารกให้อยู่ในท่าตะแคง โดยให้ศีรษะแนบกับหน้าอกของคุณแม่
  2. รองรับศีรษะและคอ วางท้ายทอยของทารกบนข้อพับแขน เพื่อช่วยพยุงศีรษะให้อยู่ในตำแหน่งที่มั่นคง
  3. ใช้แขนประคองลำตัว ให้แขนทอดไปตามแนวลำตัวของทารก
  4. รองรับก้นและขา ใช้มืออีกข้างอุ้มบริเวณก้นและช่วงขา เพื่อช่วยกระจายน้ำหนักให้สมดุล
  5. จัดแนวศีรษะ คอ และลำตัวให้อยู่ในแนวเดียวกัน เพื่อความสบายและปลอดภัยของทารก

การอุ้มเพื่อให้ลูกเรอ

ในทารกไม่ถึง 6 เดือน ควรให้ลูกเรอทุกครั้งหลังจากเปลี่ยนข้างเต้านม และหลังให้นมลูกเสร็จ โดยเฉพาะในเด็กที่มีการดื่มนมผง ควรจับเรอ ทุก 1 ออนซ์ จนหมดขวด ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันไม่ให้มีแก๊สในกระเพาะมากเกินไป

อุ้มเรอพาดบ่า

ท่าที่ 1: อุ้มพาดบ่า

  • อุ้มทารกพาดบ่าของคุณแม่หรือคุณพ่อ
  • ให้หน้าท้องของทารกกดลงบนหัวไหล่ เพื่อช่วยไล่ลม
  • ใช้มือข้างหนึ่งพยุงศีรษะและคอ อีกข้างลูบหลังหรือเคาะเบาๆ
อุ้มเรอแบบนั่งบนตัก

ท่าที่ 2: อุ้มนั่งบนตัก

  • ให้นั่งทารกบนตัก โดยหันหน้าออก
  • ใช้มือข้างหนึ่งจับพยุงหน้าอกทารก อีกข้างลูบหลังหรือเคาะเบาๆ
  • โน้มตัวทารกไปข้างหน้าเล็กน้อย เพื่อให้หน้าท้องถูกกดและช่วยไล่ลมออก

การอุ้มเพื่อปลอบลูก

อุ้มในท่าที่สบาย ใช้ท่าคล้ายกับการอุ้มเรอ โดยให้ศีรษะและลำตัวของทารกได้รับการพยุงอย่างเหมาะสม เป็นการอุ้มกอดแนบอกเพื่อให้ทารกรู้สึกปลอดภัย คุณแม่อาจพูดคุยหรือร้องเพลงเบาๆ โดยใช้น้ำเสียงนุ่มนวลเพื่อปลอบโยน รวมถึงอาจฮัมเพลงหรือเปิดเสียงที่ช่วยให้ทารกรู้สึกสงบ

คำแนะนำเพิ่มเติม: อาจลูบหลังหรือกอดเบาๆ เพื่อให้ทารกรู้สึกอบอุ่น โยกตัวช้าๆ หรือเดินไปมาเพื่อช่วยให้ทารกผ่อนคลาย

เทคนิคช่วยให้ทารกนอนหลับสนิท

เทคนิคช่วยให้ทารกหลับสนิท

โดยปกติแล้วทารกจะค่อนข้างตื่นง่ายและหลับยาก เนื่องจากไม่คุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมนอกท้องแม่ ซึ่งอาจทำให้คุณแม่หลาย ๆ ท่านพักผ่อนได้ไม่เพียงพอ วิธีช่วยให้ลูกน้อยหลับง่ายขึ้นมีดังนี้

  • สร้างบรรยากาศให้เหมาะกับการนอน ไม่มีเสียงรบกวน หรือแสงจ้า
  • ใช้เพลงคลอเบาๆ เสื้อผ้าที่อบอุ่น
  • ให้ลูกน้อยดื่มนมให้เป็นเวลา
  • เล่นกับลูกในช่วงกลางวัน หลีกเลี่ยงการเล่นในช่วงกลางคืน เพื่อที่จะได้หลับง่ายขึ้นในช่วงเวลากลางคืน
  • การลูบหลังหรือตบก้นลูกเบาๆ
  • หากลูกตื่นกลางดึก อย่างพึ่งให้ดื่มนม ลองสังเกตุว่าลูกร้องไห้เพราะอะไร เช่น ผ้าอ้อมเต็ม แมลงกัด

การดูแลความสะอาดร่างกายทารก

วิธีอาบน้ำและเช็ดตัวลูก

ควรอาบน้ำลูกน้อยด้วยน้ำอุ่นทุกวัน และสระผมให้ลูกน้อยวันละ 1 ครั้ง ควรเลือกอาบในช่วงที่อาการอุ่น เช่น ช่วงสาย หรือบ่าย และระวังอย่าให้มีลมโกรในบริเวณที่อาบน้ำให้ลูก และควรเลือกใช้ใช้สบู่ที่มีความอ่อนโยนต่อผิวลูก

การเช็ดสะดือเพื่อป้องกันติดเชื้อ

สายสะดือของลูกน้อยสามารถโดนน้ำได้แม้จะยังไม่หลุดก็ตาม ซึ่งสายสะดือจะเริ่มหลุดในช่วง 5 วันหลังคลอด ไปจนถึง 2 สัปดาห์ โดยในช่วงก่อนสายสะดือจะหลุด จะสังเกตุได้จากการที่โคนสะดือมีน้ำเหลือง หรือเลือดเก่าๆ ไหลออกมา

ให้คุณแม่ทำความสะอาดบ่อยๆ และทำความสะอาดทุกครั้งหลังอาบน้ำ ด้วยชำลีชุบแอลกอฮอล์ 70% โดยควรเช็ดให้สะอาดจนถึงบริเวณโคนสะดือ เช็ดสะดือวนจากด้านในออกมาด้านนอก โดยแนะนำให้ทำแบบนี้จนกว่าถึงช่วงที่สะดือแห้ง

หากสังเกตุแล้วพบว่าสะดือของลูกน้อยมีอาการบวม แดง อักเสบ หรือมีหนอง และมีกลิ่นเหม็น คุณแม่ควรพาลูกน้อยมาพบแพทย์

การทำความสะอาดขวดนมลูก

การทำความสะอาดขวดนมและอุปกรณ์ต่าง ๆ

  • ขวดนม จุกนม ควรล้างด้วยน้ำร้อน โดยควรล้างทำความสะอาดทันทีหลังใช้งานเสร็จ ใช้แปรงล้างควรนมทำความสะอาดด้วย แต่ไม่ควรล้างด้วยน้ำเกลือ จากนั้นล้างด้วยน้ำเย็นอีกครั้ง หากสังเกตว่าขวดนมชำรุดไม่เหมาะแก่การใช้งาน ควรเปลี่ยนเป็นขวดนมใหม่ แนะนำให้ทำการฆ่าเชื้อโรคด้วยการต้ม อุ่นไมโครเวฟ หรือนึ่งในที่นึ่งขวดนม 20 นาที
  • การซักเสื้อผ้าและของใช้ ควรแยกเสื้อผ้าของลูกซักแยกกับของพ่อแม่ และไม่ควรซักเสื้อผ้าเรอะรวมกันผ้าที่สะอาด และใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่อ่อนโยนไม่มีสารเคมีที่อันตรายผสม เพื่อป้องกันการแพ้ และอย่าลืมมซักผ้าให้ถูกตามฉลากหรือคำแนะนำ

การดูแลสุขภาพลูกน้อย

สังเกตุการขับถ่าย

  • ทารกที่ดูดนมแม่ อุจจาระสีเหลือง เนื้อละเอียด ค่อนข้างเหลว หลังจากถ่ายขี้เทาใน 2-3 วันแรก อาจถ่ายบ่อยขึ้น หากดูดนมแม่บ่อย หากเด็ก สดชื่น น้ำหนักเพิ่มขึ้น ถือว่าเป็น เรื่องปกติ
  • ทารกที่ดื่มนมผสม ทารกมักมีอุจจาระมักจะแข็งและเป็นก้อน
  • หลังการถ่ายอุจจาระหรือปัสสาวะ ควรทำความสะอาดก้นและอวัยวะเพศ พร้อมเปลี่ยนผ้าอ้อมทุกครั้ง ควรทำความสะอาดจากหน้าไปหลังเพื่อป้องกันเชื้อโรคจากบริเวณทวารหนัก และควรทำความสะอาดอย่างเบามือ
การขับถ่ายของทารก

ลูกตัวเหลืองทำยังไง

การที่ลูกน้อยตัวเหลืองสามารถพบได้บ่อย ในช่วงหลังคลอด 2-3 วันแรก เกิดจากรูบิลิน หากมีอาการตัวเหลืองไม่มากมักไม่ได้เป็นอันตราย คุณแม่สังเกตุอาการตัวเหลืองได้จากดวงตาและผิวหนังของลูกน้อย

แต่หากทารกมี ตัวเหลืองเข้ม เห็นชัดขึ้น มีอาการ ซึมลง ไม่ค่อยดูดนม ควรพาลูกน้อยมาแพทย์เพื่อรับการรักษา เช่น การส่องไฟ เพื่อช่วยให้ร่างกายขับสารตัวเหลืองออกทางอุจจาระและปัสสาวะ

บริการตรวจหลังคลอดที่คลินิก

สภาพแวดล้อมในการเลี้ยงลูก

  • มีความปลอดภัย ควรมีพื้นที่ปลอดภัยไม่มีสิ่งของหรือสารพิษที่อาจเป็นอันตราย
  • มีอากาศถ่ายเทสะดวก ควรจัดพื้นที่ให้มีอากาศบริสุทธิ์และไม่แออัด แต่ห้องไม่ควรโล่งเกินไป เพราะอาจส่งผลต่อพัฒนาการของลูกน้อยให้ล่าช้า
  • พื้นที่เลี้ยงลูกต้องสะอาด ควรรักษาความสะอาด ไม่มีเชื้อโรคหรือละอองฝุ่นที่อาจทำให้เกิดอาการแพ้
  • มีบรรยากาศอบอุ่นและสบาย ควรมีอุณหภูมิที่เหมาะสมไม่ร้อนหรือหนาวเกินไป
  • สร้างความสัมพันธ์กับลูก มีเวลาให้เวลากับลูกเพื่อสร้างความผูกพันและให้ความรู้สึกปลอดภัย

ข้อควรระวังในการเลี้ยงทารก

  • ไม่หอมทารก โดยเฉพาะในช่วงที่อายุไม่ถึง 3 เดือน เพราะเสี่ยงต่อการป่วยและติดเชื้อโรค โดยโรคจากเชื้อไวรัส นั้นมีโอกาสติดต่อได้ง่าย เช่น เริม, RSV และไข้หวัดใหญ่
  • ควรรักษาความอะอาดของตนเองก่อนสัมผัสทารก สำคัญ
  • ไม่ควรพาทารกที่อายุยังไม่ถึง 3 เดือน ออกจากบ้าน เพราะภูมิคุ้มกันยังไม่เพียงพออาจเจ็บป่วยได้ แต่สามารถพาลูกน้อยเดินรอบๆบ้านเพื่อรับแสงแดดได้
  • ไม่ควรละเลยเรื่องการฉีดวัคซีนให้ลูก ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและลดความเสี่ยงหากป่วยเป็นโรคที่ยากต่อการรักษา ดูวัคซีนที่เด็กควรฉีดตามช่วงวัย ถูกใจ
  • อย่าให้ทารกนอนคว่ำโดยเฉพาะทารกแรกเกิด เนื่องจากทารกอาจมีการหันหน้าไปมา อาจทำให้หมอนหรือผ้าห่มไปอุดกลั้นบริเวณจมูกและปาก และทำให้ทารกหยุดหายใจและเสียชีวิตได้ซึ่งอันตรายมาก
  • ไม่วางของเล่นหรือของตกแต่งบนที่นอนทารกมากไป เพราะทารกอาจซุกที่ของเล่นหรือของชิ้นนั้นมากจนเกินไป และอาจไปอุดกลั้นบริเวณจมูกและปาก
  • ควรใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับทารกเท่านั้น เพื่อป้องกันส่วนผสมที่ก่อให้เกิดอันตราย
คุณแม่มือใหม่ เลี้ยงลูกเอง

คุณแม่มือใหม่หลังคลอดแล้วก็ต้องเรียนรู้วิธีเลี้ยงลูกแรกเกิด นอกจากการใช้สัญชาตญาณความเป็นแม่แล้ว การศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมก็ช่วยให้คุณแม่มือใหม่ เลี้ยงลูกเองได้อย่างมั่นใจมากขึ้น และในเรื่องนี้ คุณพ่อเองก็สามารถเรียนรู้ไปพร้อมกันเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระและเสริมสร้างความผูกพันในครอบครัว

นอกจากนี้ เพื่อสุขภาพที่ดีของทั้งคุณแม่และลูกน้อย การตรวจหลังคลอดถือเป็นสิ่งสำคัญ คุณแม่จะได้เช็กสุขภาพร่างกายหลังการตั้งครรภ์ รวมถึงรับคำแนะนำจากแพทย์เกี่ยวกับการดูแลตัวเอง การให้นมบุตร และการวางแผนคุมกำเนิด ซึ่งช่วยให้การเลี้ยงลูกเป็นไปอย่างราบรื่นและมั่นใจมากยิ่งขึ้น

เอกสารอ้างอิง

  • คู่มือการปฏิบัติตัวหลังคลอดและการดูแลทารกเมื่อกลับบ้านสำหรับคุณแม่, หอผู้ป่วยมารดาหลังคลอดและทารกแรกเกิด กลุ่มงานการพยาบาลโรงพยาบาลสุทธาเวช คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
  • คู่มือมารดาหลังคลอดและการดูแลทารก, กรมอนามัยโดยกองอนามัยการเจริญพันธุ์ และกองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติ 

บทความที่น่าสนใจ

บริการตรวจหลังคลอดที่คลินิก

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

 Hot Line 081-562-7722 กดโทรออก

    

 @qns9056c

 อินทัชเมดิแคร์คลินิกเวชกรรม

แก้ไขล่าสุด : 24/02/2025

อนุญาตให้ใช้งานภาพโดยไม่ต้องขออนุญาต เฉพาะในเชิงให้ความรู้ หรือเพื่อการศึกษาเท่านั้น โดยต้องให้เครดิตหรือแสดงแหล่งที่มาของ intouchmedicare.com