วิธีดูแลสุขภาพหลังคลอดต้องทำอย่างไรบ้าง

วิธีดูแลตัวเองหลังคลอด เพื่อสุขภาพที่ดีของคุณแม่

หลังจากที่อุ้มท้องมานาน 9 เดือน ผ่านการฝากครรภ์และดูแลสุขภาพตามคำแนะนำของคุณหมอ จนกระทั่งคลอดลูกออกมาแล้ว วิธีการดูแลตัวเองหลังคลอดเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพื่อให้ร่างกายฟื้นตัวไว มดลูกเข้าอู่เร็ว และสุขภาพโดยรวมแข็งแรง คุณแม่ยังต้องดูแลตัวเองอย่างรอบคอบและดูแลลูกต่อไป

โดยเฉพาะคุณแม่มือใหม่หลังคลอดที่ยังไม่มีประสบการณ์ เพื่อช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูสุขภาพหลังคลอดและพร้อมสำหรับการเลี้ยงดูลูก

เคล็ดลับวิธีดูแลตัวเองหลังคลอด

ร่างกายจะฟื้นตัวหลังคลอดเมื่อไหร่

โดยทั่วไป ร่างกายคุณแม่จะใช้เวลาฟื้นตัวประมาณ 6-8 สัปดาห์หลังคลอด แต่มดลูกจะเข้าอู่ภายใน 4-6 สัปดาห์ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสุขภาพของแต่ละคน การพักผ่อน อาหาร และวิธีดูแลตัวเองหลังคลอดก็มีผลต่อการฟื้นตัวด้วย

ในช่วงระยะเวลา 8 สัปดาห์หลังการคลอดบุตร ระบบอวัยวะภายในบริเวณช่องคลอดของคุณแม่อาจยังทำงานไม่ปกติดีนัก และอาจพบอาการผิดปกติได้ เช่น ปัญหาที่ระบบขับถ่ายอย่างอาการท้องผูก, ริดสีดวงทวาร และตกขาว ซึ่งอาการเหล่านี้จะค่อยๆลดลงไป

หากคุณแม่สังเกตุพบว่าที่บริเวณแผลมีรอยปริ หรือด้ายเย็บแผลหลุดควรไปพบแพทย์ ไม่จำเป็นต้องรอให้ถึงช่วงตรวจหลังคลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีอาการที่ผิดปกติอย่าง ตกขาวมีกลิ่นเหม็น รู้สึกปวด มีไข้ อาจเป็นไปได้ว่ามีการติดเชื้อ

บริการตรวจหลังคลอดที่คลินิก

พักผ่อนให้ได้มากที่สุด

วิธีดูแลตัวเองหลังคลอดที่จำเป็นมาสำหรับคุณแม่ก็คือการพักผ่อน คุณแม่มือใหม่หลังคลอดแล้วคุณแม่ควรหาเวลาว่างๆ ในระหว่างลูกน้อยหลับเพื่อพักผ่อนด้วยเหมือนกัน เพราะการนอนหลับไม่เพียงพอจะส่งผลเสียโดยตรงต่อร่างกาย ทำให้ร่างกายไม่ได้รับการฟื้นฟู เพราะในช่วงการตั้งครรภ์คุณแม่ก็แบกท้องลูกน้อยมายาวนาน และเหนื่อยพอสมควรค่ะ

ซึ่งในระยะหลังคลอดคุณแม่อาจะยังคงอ่อนเพลียอยู่ เนื่องจากการสูญเสียเลือดและพลังงานในขณะคลอด โดยควรนอนหลับให้ได้อย่างน้อยวันละ 6-8 ชั่วโมง โดยเฉพาะในช่วง 2 สัปดาห์แรกหลังคลอด

พักผ่อนให้เพียงพอ

อยากให้มดลูกเข้าอู่เร็วทำยังไง

  • ให้นมลูก การให้นมลูกน้อยจะช่วยกระตุ้นฮอร์โมนออกซิโทซิน ซึ่งทำให้มดลูกหดตัวเร็วขึ้น
  • ขยับร่างกายเบา ๆ เช่น เดินช้า ๆ เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต
  • พักผ่อนให้เพียงพอ
  • นอนคว่ำ ช่วยให้มดลูกหดตัวได้ดีขึ้น
  • ดูแลเรื่องอาหารและโภชนาการ รับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กและโปรตีนให้เพียงพอ
  • เข้ารับการตรวจหลังคลอด เพื่อติดตามการฟื้นตัวของมดลูกและสุขภาพโดยรวม

อาหารที่ควรกินและควรเลี่ยงหลังคลอด

อาหารสำหรับคุณแม่หลังคลอด

อาหารที่ควรกิน

  • รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เพื่อเสริมสร้างร่างกายและมีสารอาหารเพียงพอสำหรับการสร้างน้ำนมให้ลูก
  • การรับประทานผักและผลไม้จะช่วยป้องกันอาการท้องผูก ที่มักเกิดขึ้นในช่วงสัปดาห์แรกหลังคลอด เนื่องจากคุณแม่บางท่านอาจรู้สึกเจ็บแผลเมื่อเบ่งอุจจาระ
  • ในขณะที่การให้นมบุตรควรรับประทานอาหารที่ครบถ้วนและดื่มน้ำหรือนมเพิ่มมากขึ้นเพื่อรักษาสมดุลของร่างกาย

อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง

อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง เนื่องจากสารเหล่านี้อาจถูกขับออกทางน้ำนมและอาจส่งผลกระทบต่อลูกน้อยได้ ได้แก่

  • อาหารประเภทหมักดอง อาหารรสจัด

  • ชา กาแฟ ยาดอง เหล้า อาหารที่มีแอลกอฮอล์ผสม

  • การรับประทานยาและเครื่องดื่มจากสมุนไพร ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประเทาน เพราะสมุนไพรบางชนิด เช่น ไพล มีฤทธิ์ทำให้มดลูกคลายตัว ซึ่งอาจทำให้เกิดการตกเลือดได้

วิธีให้นมบุตรและการดูแลเต้านม

ภายหลังการคลอด ร่างกายของคุณแม่จะกระตุ้นการผลิตน้ำนม ซึ่งอาจทำให้คุณแม่รู้สึกตึงและคัดที่เต้านม การให้นมลูกจะช่วยลดอาการคัดตึงนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังช่วยให้ทารกได้รับสารอาหารที่มีคุณค่าและภูมิต้านทานที่ดีที่สุดจากน้ำนมแม่ 

  • การให้นมลูก ควรให้ทารกงับถึงลานนม ไม่ใช่แค่หัวนม เพื่อให้น้ำนมพุ่งออกมา การให้นมลูกอย่างสม่ำเสมอจะช่วยกระตุ้นการผลิตน้ำนมและลดอาการคัดตึงได้

  • การดูแลเต้านม ช่วงแรกหลังคลอดจะมีน้ำนมเหลืองหรือที่เรียกว่า “โคลัสตรัม” (Colostrum) ซึ่งมีประโยชน์มากต่อลูกน้อย ควรให้ทารกดูดนมแม่ให้หมดทุกครั้ง 

  • การทำความสะอาดเต้านมและหัวนม ทำความสะอาดด้วยน้ำสะอาดก็เพียงพอแล้วไม่ควรใช้สบู่  รวมไปถึงไม่จำเป็นกับต้องทำความสะอาดบ่อยจนเกินไป เพราะต่อมไขมันภายในจะช่วยถนอมเต้านมและหัวนมอยู่แล้ว และทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้หัวนมแตก

“การดูแลเต้านมและการให้นมหลังคลอดไม่เพียงแค่ช่วยลดอาการคัดตึง แต่ยังช่วยให้มดลูกเข้าอู่เร็วขึ้น รูปร่างกลับสู่ปกติ รวมถึงเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างคุณแม่กับลูกน้อย และเป็นการดูแลสารอาหารที่มีคุณค่าสำหรับการเจริญเติบโตของทารกด้วยค่ะ”

วิธีการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่

คุณแม่หลังคลอดเริ่มออกกำลังกายได้เมื่อไหร่

การออกกำลังกายหลังคลอด เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วขึ้น กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ขับน้ำคาวปลา และเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ เช่น ฝีเย็บ กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน และหน้าท้อง อย่างไรก็ตาม คุณแม่หลังคลอดควรเลือกการออกกำลังกายให้เหมาะสมกับสภาพร่างกาย

  • คลอดธรรมชาติ สามารถเริ่มออกกำลังกายเบา ๆ ได้หลังจากพักฟื้น 6-8 ชั่วโมง เช่น การเดิน หรือการบริหารกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน

  • ผ่าคลอด ควรให้ร่างกายพักฟื้น 3-6 วัน ก่อนเริ่มขยับตัว และหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก ควรรอ 6-8 สัปดาห์ ก่อนเริ่มออกกำลังกายจริงจัง

ข้อควรระวัง: หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายในท่านอนคว่ำ เพราะอาจทำให้เกิดภาวะลมอุดตันในหลอดเลือดได้ นอกจากนี้ ควรฟังร่างกายตัวเอง หากมีอาการผิดปกติ เช่น ปวดหน่วง เลือดออกผิดปกติ หรือเวียนศีรษะ ควรหยุดทันทีและปรึกษาแพทย์

บริการตรวจหลังคลอดที่คลินิก

วิธีดูแลแผลผ่าคลอดและแผลฝีเย็บ

ไม่ว่าจะคลอดลูกด้วยวิธีธรรมชาติ หรือจะคลอดด้วยการผ่าตัดก็ต้องมีแผลเย็บทั้งนั้น คุณแม่จึงควรให้ความสนใจและรักษาความสะอาดเป็นพิเศษ เพื่อจะได้ไม่มีอาการอักเสบและติดเชื้อจนทำให้แผลหายช้าลง ซึ่งจะส่งผลต่อการเลี้ยงดูลูกหลังคลอดด้วย

วิธีการดูแลแผลฝีเย็บหลังคลอด

โดยปกติแผลที่เย็บด้วยไหมละลายไม่ต้องตัดไหม และจะหายเป็นปกติในเวลาประมาณ 5 วัน โดยควรดูแลแผลฝีเย็บ คือ 

  • รักษาความสะอาด ล้างแผลด้วยน้ำสะอาดและสบู่รวมไปถึงซับให้แห้งทุกครั้ง หลังการอุจจาระและปัสสาวะ เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ

  • หลีกเลี่ยงการนั่งทับแผลนาน ๆ เพื่อลดอาการบวมและการเกิดการอักเสบของแผล

  • การประคบเย็น 10-20 นาทีหลังคลอด เพื่อช่วยบรรเทาอาการบวมและลดอาการปวด

  • ดูแลระบบขับถ่ายให้ดี ดื่มน้ำให้เพียงพอและรับประทานอาหารที่มีกากใยสูงเพื่อป้องกันอาการท้องผูก ซึ่งอาจทำให้แผลฉีกขาดหรือเกิดริดสีดวงทวาร

น้ำคาวปลา (Lochia)

น้ำคาวปลาจะมีสีแดงสดในช่วงหลังคลอดและค่อยๆ จางลงในระหว่างการฟื้นตัวของมดลูก ซึ่งอาจมีการไหลของน้ำคาวปลานานถึง 8 สัปดาห์ ถือเป็นเรื่องปกติ แต่ไม่ควรใช้ผ้าอนามัยแบบสอดหรือถ้วยจนกว่าจะได้รับการตรวจจากแพทย์

แผลคลอด

การดูแลแผลผ่าคลอด

แผลผ่าคลอดจะหายในช่วง 7 วัน โดยระหว่างนี้ รักษาความสะอาดแผลหลีกเลี่ยงการยกของหนักในช่วง 6-8 สัปดาห์แรกหลังคลอด

ควรหลีกเลี่ยงไม่ให้แผลโดนน้ำ สามารถอาบน้ำได้ตามปกติ หากปิดแผลด้วยพลาสเตอร์กันน้ำ โดยหลังอาบน้ำควรซับแผ่นปิดแผลให้แห้ง

สังเกตอาการติดเชื้อ หากแผลมีอาการบวม แดง มีหนอง หรือกลิ่นผิดปกติของน้ำคาวปลา ควรรีบพบแพทย์ทันที 

ทั้งนี้คุณแม่ควรสังเกตุการปัสสาวะภายใน 6 ชั่วโมงหลังคลอด หากไม่สามารถขับปัสสาวะได้ อาจเป็นอันตรายต่อกระเพาะปัสสาวะ ควรรีบปรึกษาแพทย์หากมีอาการผิดปกติ การดูแลแผลอย่างถูกวิธีและการสังเกตอาการต่างๆ สามารถช่วยให้คุณแม่ฟื้นตัวได้เร็วและปลอดภัยจากการติดเชื้อหลังคลอด

บริการตรวจหลังคลอดที่คลินิก

หลังคลอดแล้วมีเพศสัมพันธ์ได้ตอนไหน

หลังตจากคลอดบุตรจะไม่แนะนำให้มีเพสสัมพันธ์ในทันที ควรรอประมาณ 4-6 สัปดาห์หลังคลอด เพราะปากมดลูกที่ยังมีการเปิดอยู่จะเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อ รวมถึงเป็นการให้เนื้อเยื่อได้ซ่อมแซมตัวเอง และป้องกันความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นในขณะมีเพศสัมพันธ์

อาการผิดปกติหลังคลอดที่ต้องระวัง

หากคุณแม่หลังคลอดมีอาการเหล่านี้ควรรีบมาพบแพทย์ทันที

  1. เต้านมปวดบวมแดง หรือมีฝี

  2. แผลฝีเย็บปวดบวมแดง หรือมีหนอง, แผลผ่าตัดปวดบวมแดง หรือมีหนอง

  3. ปวดท้องน้อยมาก 

  4. น้ำคาวปลาผิดปกติ มีกลิ่นเหม็น น้ำคาวปลาสีไม่จางลงและไม่ลดลง มีก้อนเลือดออกมาหรือมีกลิ่นเหม็น

  5. มดลูกเข้าอู่ช้า หลังคลอด 2 สัปดาห์ไปแล้วยังสามารถคลำพบมดลูกทางหน้าท้อง

  6. ปัสสาวะแสบขัด เนื่องจากการติดเชื้อของทางเดินปัสสาวะ อาจเกิดจากการทำความสะอาดช่องคลอดและอวัยวะเพศไม่ดี

  7. มีเลือดออกทางช่องคลอด ส่วนใหญ่จะเกิดจากแผลในโพรงมดลูกบริเวณที่รกเกาะ เนื่องจากมดลูกหด รัดตัวไม่ดี หรือมีเศษรกตกค้างในโพรงมดลูก

  8. ไข้ และมีอาการอักเสบของอวัยวะอื่นร่วมด้วย

  9. ปวดศีรษะรุนแรง ปวดศีรษะบ่อยครั้งและปวดเป็นเวลานานๆ อาจเกิดจากความดันโลหิตสูง การพักผ่อนไม่เพียงพอ หรืออาจเครียดจากการคลอด

  10. กรณีแผลผ่าคลอด สำหรับคุณแม่ที่บริเวณแผลเย็บมีอาการ อักเสบ ปวดบวม แดง ต้องรีบมาพบแพทย์ทันที

สนใจพบแพทย์คลิกที่นี่
ตรวจหลังคลอด สำคัญอย่างไร

ตรวจหลังคลอด สำคัญอย่างไร

การตรวจหลังคลอดช่วยประเมินสุขภาพของคุณแม่หลังคลอดเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน เช่น การเช็กแผลคลอดและการติดเชื้อ การตรวจภาวะซีด และการดูแลสุขภาพจิตใจ

นอกจากนี้ยังช่วยตรวจมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านม รวมถึงการแนะนำวิธีคุมกำเนิด เพื่อให้คุณแม่ฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์และปลอดภัยจากภาวะแทรกซ้อนต่างๆ

สำหรับคนที่ตั้งใจจะเป็นคุณแม่แล้ว ส่วนใหญ่มักจะเตรียมความพร้อมทั้งก่อนตั้งครรภ์ ระหว่างฝากครรภ์ และการดูแลสุขภาพหลังคลอดด้วย เพราะทุกช่วงเวลาส่งผลกับเจ้าตัวน้อยทั้งสิ้น ยิ่งคุณแม่รู้จักวิธีดูแลตัวเองหลังคลอดดีเท่าไหร่ ก็จะยิ่งทำให้เลี้ยงดูลูกให้เติบโตและมีพัฒนาการสมบูรณ์แข็งแรงมากขึ้นเท่านั้น รู้แบบนี้แล้วอย่าลืมดูแลสุขภาพกันด้วยนะคะคุณแม่ทุกท่าน

เอกสารอ้างอิง

  • คู่มือการปฏิบัติตัวหลังคลอดและการดูแลทารกเมื่อกลับบ้านสำหรับคุณแม่, หอผู้ป่วยมารดาหลังคลอดและทารกแรกเกิด กลุ่มงานการพยาบาลโรงพยาบาลสุทธาเวช คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

  • คู่มือมารดาหลังคลอดและการดูแลทารก, กรมอนามัยโดยกองอนามัยการเจริญพันธุ์ และกองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติ 

  • The Vagina Bible, Dr.Jen Gunter, MD

บทความที่น่าสนใจ

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

 Hot Line 081-562-7722 กดโทรออก

    

 @qns9056c

 อินทัชเมดิแคร์คลินิกเวชกรรม

แก้ไขล่าสุด : 23/02/2025

อนุญาตให้ใช้งานภาพโดยไม่ต้องขออนุญาต เฉพาะในเชิงให้ความรู้ หรือเพื่อการศึกษาเท่านั้น โดยต้องให้เครดิตหรือแสดงแหล่งที่มาของ intouchmedicare.com