สิ่งแปลกปลอมเข้าหู แมลงเข้าหู สำลีเข้าหู รักษาอย่างไร?

สิ่งแปลกปลอมเข้าหู

สิ่งแปลกปลอมเข้าหู อาจเป็นเรื่องที่หลายคนมองว่าเล็กน้อย แต่หากปล่อยไว้ อาจนำไปสู่ปัญหาใหญ่ได้ ไม่ว่าจะเป็นเมล็ดถั่วที่เด็กซุกซนแหย่เข้าไป แมลงที่บินเข้าไปโดยไม่ตั้งใจ หรือแม้แต่สำลีที่หลุดค้างอยู่หลังจากทำความสะอาดหู สิ่งเหล่านี้อาจทำให้เกิดอาการปวด ระคายเคือง หรือแม้แต่สูญเสียการได้ยินชั่วคราว

ในบทความนี้ เราจะพูดถึงวิธีรับมือเมื่อต้องเจอกับสิ่งแปลกปลอมในหู สิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำ รวมถึงเมื่อใดที่ควรไปพบแพทย์เอาสิ่งแปลกปลอมออกจากหู เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น

ข้อมูลน่ารู้

สิ่งแปลกปลอมในหูเกิดจากสาเหตุไหนบ้าง

ในเด็ก

  • เกิดจากความซุกซน อยากลองและอยากรู้ของเด็ก 
  • วัสดุที่พบบ่อย เช่น เมล็ดธัญพืช เศษอาหาร เศษก้อนยางลบ ลูกปัด สำลี สีเทียน ชิ้นส่วนของเล่น ถ่านกระดุม

ในผุ้ใหญ่

  • เกิดจากนิสัยส่วนตัว และความเคยชินที่ชอบปั่นหู แคะหู 
  • วัสดุที่พบบ่อย เช่น เศษสำลี เศษผม เศษกระดาษทิชชู

เหตุบังเอิญ

  • มีแมลงหรือสัตว์ขนาดเล็กเข้าหู เช่น มด แมลง เห็บ หมัด ยุง ลูกแมลงสาบ
ปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อสิ่งแปลกปลอมเข้าหู

ปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อสิ่งแปลกปลอมเข้าหู

  • ถ้าสิ่งแปลกปลอมสังเกตุเห็นได้ด้วยตาเปล่าชัดเจนและไม่ได้เป็นของแข็ง อาจลองใช้ปากคีบ คีบวัตถุนั้นออกอย่างเบามือ ภายใต้แสงสว่างที่เพียงพอ

  • ห้ามใช้ไม้พันสำลี ก้านไม้ขีดไฟ หรือวัตถุอื่นใดเขี่ยวัตถุนั้นออกมาเอง เพราะจะทำให้สิ่งแปลกปลอมหลุดลึกไปมากขึ้น จนเป็นอันตรายต่อแก้วหูและหูชั้นกลางได้

  • หากเป็นแมลงเข้าหู ให้เอาศรีษะข้างนั้นขึ้นและใช้น้ำมันทาตัวเด็ก (เบบี้ ออยด์) หรือน้ำมันพืชใส่ไปในรูหูโดยดึงใบหูไปทางด้านหลังเพื่อให้รูหูอยู่ในแนวตรง เพื่อให้แมลงหนีขึ้นมาหรือลอยขึ้นมา

  • ห้ามใช้น้ำหรือน้ำมันไฮโรเจนเปอร์ออกไซต์หรือของเหลวอื่นๆ ใส่ไปในรูหู ในกรณีอื่นๆเด็ดขาด โดยเฉพาะถ้าสงสัยว่าแก้วหูทะลุ เช่น มีเลือดออก มีน้ำไหล

  • ในกรณีที่ปฏิบัติดังกล่าวไม่ได้ผล หรือมีอาการผิดปกติ เช่น ปวดหูมาก หน่วงๆในหู มีเลือดหรือน้ำไหล หูอื้อไม่ได้ยิน ควรรีบพบแพทย์ทันที 

อาการที่ควรไปพบแพทย์ที่คลินิก

อาการที่ควรไปพบแพทย์ที่คลินิก

  1. รู้สึกมีแมลงดิ้นไปมาในหู 
  2. ปวดเจ็บในหู ปวดหูมาก ในเด็กอาจร้องงอแง คลำตำแหน่งที่เจ็บ
  3. หูมีเลือดไหล น้ำเหลืองไหล หากค้างหลายวันอาจมีไข้
  4. มีน้ำกลิ่นเหม็น หรือเป็นหนองไหลออกจากช่องหู
  5. หูอื้อ การได้ยินลดลง
  6. สิ่งแปลกปลอมที่เป็นถ่านกระดุม ควรพบแพทย์ทันทีเพื่อให้แพทย์เอาออกให้เร็วที่สุด
แมลงเข้าหู สำลีเข้าหู พบแพทย์ที่อินทัชเมดิแคร์ สอบถามได้เลยค่ะ

อินทัชเมดิแคร์คลินิกเวชกรรม ให้บริการเอาสิ่งแปลกปลอมออกจากหูโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ด้วยวิธีการที่ถูกต้องและปลอดภัย ด้วยเครื่องมือที่ได้มาตรฐานและทันสมัย สามารถเข้ารับบริการได้ทุกสาขาใกล้บ้านคุณ

เอาสิ่งแปลกปลอมออกจากหู ราคาเท่าไร

  • เอาสิ่งแปลกปลอมออกจากหู (ไม่ใช่เครื่อง) ราคาเริ่มต้น 1,340 บาท
  • เอาสิ่งแปลกปลอมออกจากหูโดยเครื่อง ราคาเริ่มต้น 1,840 บาท
เอาสิ่งแปลกปลอมออกจากหู ราคาเท่าไร

การรักษาเมื่อมีสิ่งแปลกปลอมเข้าหู

  • แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการ ประวัติและการตรวจร่างกาย
  • ใช้เครื่องส่องหู (otoscope) ตรวจหาสิ่งแปลกปลอมในรูหู ดูตำแหน่ง ลักษณะ และประเภทของสิ่งแปลกปลอม
  • แพทย์จะใช้อุปกรณ์ดูดน้ำเหลือง หนอง หรือเลือดออกเพื่อให้เห็นขอบเขตและทำการคีบสิ่งแปลกปลอม รวมถึงประเมินอาการบาดเจ็บของช่องหูและให้การรักษา
  • ให้ยาปฏิชีวนะและยาหยอดหูนาน 5-7 วัน หากมีอาการอักเสบ แผลถลอก หรือติดเชื้อ
  • สังเกตุอาการหากไม่ดีขึ้นหรือแย่ลงหลังหลังทานยา ควรรีบกลับมาพบแพทย์ เช่น ไข้สูง ชักเกร็ง เลือออก มีหนองไหลต่อเนื่อง หายใจลำบาก
  • ในรายที่สงสัยว่ามีถ่านกระดุมเข้าหู แพทย์จะทำการตรวจด้วยการเอ็กเรย์ และรีบรักษา หากปล่อยไว้สารเคมีในถ่านอาจรั่วไหล ทำให้เยื่อแก้วหูทะลุ ติดเชื้อแทรกซ้อน หูหนวกได้

ประสบการณ์การรักษาของแพทย์

เคสที่ 1 :

ผู้ป่วยหญิงวัยกลางคน ปั่นหูแล้วสำลีหลุดเข้าไปในหูเป็นเวลาหลายวัน ไม่สามารถนำออกเองได้ มาพบแพทย์ด้วยอาการปวดหูอย่างรุนแรง แพทย์ตรวจด้วยเครื่องส่องหูและใช้เครื่องมือคีบสำลีออกมาได้สำเร็จ จากนั้นให้ยาปฏิชีวนะและยาหยอดหูเป็นเวลา 5-7 วัน อาการดีขึ้นหลังจากติดตามอาการตามนัด

แพทย์หญิงอรอุมา เพียรผล (แพทย์ประจำคลินิก)

เคสที่ 2 :

เด็กชายวัยอนุบาล ผู้ปกครองให้ประวัติว่ามีเหตุให้ขนมเม็ดกลม (M&M) เข้าไปในหู หลังกลับถึงบ้านเด็กมีอาการปวดหูมาก จึงแจ้งผู้ปกครอง พามาพบแพทย์ แพทย์ใช้เครื่องส่องหูและเครื่องมือคีบขนมออกมาได้สำเร็จ พร้อมให้ยาปฏิชีวนะและยาหยอดหูเป็นเวลา 5-7 วัน เมื่อติดตามอาการ ไม่พบภาวะแทรกซ้อนใดๆ

แพทย์หญิงอรอุมา เพียรผล (แพทย์ประจำคลินิก)

การเตรียมตัวก่อนไปพบแพทย์

การเตรียมตัวก่อนไปพบแพทย์

  • ห้ามใช้นิ้วมือ ไม้พันสำลี ไม้แคะหู ก้านไม้ขีดไฟ หรืออุปกรณ์ใดๆ พยายามดึงหรือเขี่ยสิ่งแปลกปลอมออก เพราะอาจผลักให้ลึกเข้าไปกว่าเดิม เสี่ยงต่อการทำให้แก้วหูทะลุหรือเกิดแผลถลอกภายในช่องหู และอาจทำให้แพทย์นำออกยากขึ้นกว่าเดิม
  • ไม่ควรหยอดน้ำ หรือน้ำมันลงไปในหู ในกรณีที่ไม่แน่ใจว่าสิ่งที่อยู่ในหูเป็นอะไร โดยเฉพาะถ้าเป็นแมลงหรือวัตถุที่อาจบวมเมื่อโดนน้ำ เช่น เมล็ดพืช ควรงดหยอดของเหลวใดๆ
  • กรณีเป็นเด็ก ควรให้งดน้ำงดอาหาร เพราะอาจต้องดมยาสลบเพื่อเอาสิ่งแปลกปลอมออกจากหู
  • แจ้งแพทย์ถึงรายละเอียดของสิ่งแปลกปลอม (หากทราบ) ถ้ารู้ว่าสิ่งแปลกปลอมคืออะไร เช่น สำลี เมล็ดพืช แมลง ฯลฯ ควรแจ้งแพทย์เพื่อช่วยให้การรักษาง่ายขึ้น

เอกสารอ้างอิง

  • the medical council of Thailand ,ภาควิชาโสต นาสิก ลาริงซ์วิทยา Faculty of Medicine Siriraj Hospital

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

 Hot Line 081-562-7722 กดโทรออก

    

 @qns9056c

 อินทัชเมดิแคร์คลินิกเวชกรรม

แก้ไขล่าสุด : 02/03/2025

อนุญาตให้ใช้งานภาพโดยไม่ต้องขออนุญาต เฉพาะในเชิงให้ความรู้ หรือเพื่อการศึกษาเท่านั้น โดยต้องให้เครดิตหรือแสดงแหล่งที่มาของ intouchmedicare.com