KOCITAF เป็นยาต้านไวรัสเอชไอวี ซึ่งใช้เป็นยา PEP เพื่อป้องกัน HIV หลังรับความเสี่ยง ยาตัวนี้ประกอบด้วยตัวยาต้านไวรัส 3 ชนิดในเม็ดเดียว
ผู้ที่เพิ่งมีความเสี่ยง เช่น มีเพศสัมพันธ์ไม่ป้องกัน ถุงยางหลุด-ขาด สัมผัสเลือดหรือสารคัดหลังกังวล ควรรีบพบแพทย์ทันทีเพื่อประเมินว่าเหมาะกับการใช้ยาโคซิทาฟ หรือไม่ เพราะการใช้ยาหลังรับความเสี่ยง จะได้ผลดีที่สุดเมื่อเริ่มภายใน 72 ชั่วโมง และยิ่งเร็วยิ่งดี นอกจากนี้ ควรทราบวิธีใช้ กินยังไง ขนาดยา ราคา รวมถึงผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
หัวข้อที่น่าสนใจเกี่ยวกับ KOCITAF
- Kocitaf คืออะไร
- ขนาดและวิธีการใช้ยาให้มีประสิทธิภาพ
- ผลข้างเคียงของ Kocitaf ที่พบได้บ่อย
- ข้อบ่งใช้ ข้อควรระวังและข้อห้ามในการใช้
- ซื้อ Kocitaf ได้ที่ไหน
- ข้อดีที่แตกต่างจากยาบริษัทอื่นๆ ที่มีจำหน่ายในประเทศไทย
- ใช้ Kocitaf แล้วต้องตรวจ HIV ซ้ำกี่ครั้ง
Kocitaf คืออะไร

ส่วนประกอบของยา Kocitaf มีอะไรบ้าง
ในยา 1 เม็ด kocitaf tablet ประกอบด้วย
- Dolutegravir (ในรูป Dolutegravir Sodium) 50 มก.
- Emtricitabine 200 มก.
- Tenofovir Alafenamide 25 มก.
- ในยา 1 เม็ดมีแลคโตสเป็นส่วนประกอบ 120 มก.
เหมาะกับใครบ้าง
- ผู้ติดเชื้อ HIV-1 ได้แก่ ผู้ใหญ่, วัยรุ่นอายุ 12 ปีขึ้นไป และน้ำหนักตัวอย่างน้อย 40 กิโลกรัม และผู้ที่มีโรคตับระดับเล็กน้อย–ปานกลาง
- กลุ่มที่ใช้ได้แต่ต้องระวังพิเศษ ได้แก่ ผู้สูงอายุที่อายุ มากกว่า 65 ปี, ผู้มีไตเสื่อมในระดับน้อย-ปานกลาง
กลุ่มที่ไม่เหมาะกับ Kocitaf
- ผู้ที่สงสัย หรือมีการยืนยันว่าดื้อยาในกลุ่ม integrase inhibitors
- ผู้มีภาวะไตเสื่อมรุนแรง
- ผู้ที่มีโรคตับรุนแรง
- เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี หรือหนักน้อยกว่า 40 กิโลกรัม
- ผู้แพ้ส่วนประกอบของยา
ขนาดและวิธีการใช้ยาให้มีประสิทธิภาพ
การรักษาควรเริ่มการรักษาจากแพทย์ผู้มีประสบการณ์ในการจัดการกับการติดเชื้อ HIV โดยยาสามารถรับประทานได้โดยมีหรือไม่มีอาหารก็ได้
ต้องกินกี่เม็ดต่อวัน
ขนาดยาที่แนะนำของโคซิทาฟ คือ รับประทานวันละ 1 ครั้ง ครั้งละ 1 เม็ด
ต้องกินต่อเนื่องกี่วัน
รับประทานอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 28 วัน
ข้อผิดพลาดที่คนมักทำเวลาใช้ PEP
ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยในการใช้ ยา PEP ป้องกัน HIV คือ การเริ่มกินยาช้ากว่า 72 ชั่วโมงหลังเสี่ยง ลืมกินยา หรือหยุดยาเองก่อนครบ 28 วัน ซึ่งทำให้ประสิทธิภาพลดลงและอาจป้องกัน HIV ได้ไม่เต็มที่ นอกจากนี้หากเป็นคนที่มีความเสี่ยงซ้ำหลายครั้ง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อพิจารณาใช้ PrEP (ยาป้องกันก่อนเสี่ยง) แทน เพื่อการป้องกันที่เหมาะสมและต่อเนื่องมากกว่า
ผลข้างเคียงของ Kocitaf ที่พบได้บ่อย
อาการที่ไม่เป็นอันตราย
อาการที่พบได้ เช่น คลื่นไส้, ปวดหัว, นอนไม่หลับ,เหนื่อยง่าย และท้องเสีย เป็นต้น
อาการที่พบไม่บ่อย แต่ควรปรึกษาแพทย์
มีผื่นแพ้ยา ผื่นลมพิษ, แพ้ยารุนแรง, มีปัญหาไต, ผู้ที่เป็นตับอักเสบรุนแรง (โดยเฉพาะผู้มี HBV) ผู้ที่มีอาการดื้อยา (เนื่องจากหยุดยา-ใช้ยาไม่ต่อเนื่อง)
ข้อบ่งใช้ ข้อควรระวังและข้อห้ามในการใช้
ยาโคซิทาฟ เป็นยาต้านไวรัสที่ใช้ร่วมกับยาต้านรีโทรไวรัสอื่น ๆ สำหรับรักษาผู้ที่ติดเชื้อ HIV ในผู้ใหญ่และวัยรุ่น ตั้งแต่อายุ 12 ปีขึ้นไปและน้ำหนักมากกว่า 40 กิโลกรัม โดยก่อนเริ่มใช้ยาควรได้รับการประเมินความเหมาะสมจากแพทย์เสมอ ![]()
ผู้ที่เป็นโรคตับ/ไต ควรปรึกษาแพทย์
ผู้ที่มีโรคตับหรือโรคไตควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ Kocitaf เนื่องจากจำเป็นต้องตรวจค่าการทำงานของตับและไต เพื่อประเมินความปลอดภัย และปรับขนาดยาหากจำเป็น
ยาที่อาจมีปฏิกิริยากับ Kocitaf
ยาบางชนิดอาจมีปฏิกิริยากับโคซิตาฟ เช่น
- ยากันชัก เช่น carbamazepine, phenytoin
- ยาวัณโรค เช่น rifampicin
- ยาต้านไวรัสรุ่นเก่า เช่น efavirenz
- สมุนไพร St. John’s Wort
- ยาลดกรดหรือผลิตภัณฑ์ที่มีแร่ธาตุ เช่น แคลเซียม หรือ เหล็ก
ยาเหล่านี้อาจทำให้ระดับยา Kocitaf ในเลือดลดลง ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการป้องกันหรือรักษา HIV แย่ลง หากกำลังใช้ยา อาหารเสริม หรือสมุนไพรใด ๆ ควรแจ้งแพทย์ก่อนเริ่มยา Kocitaf ทุกครั้ง

ข้อดีที่แตกต่างจากยาบริษัทอื่นๆ ที่มีจำหน่ายในประเทศไทย
เป็นยา pep (ยาต้าน hiv) ที่แนะนำให้ใช้เป็นสูตรแรกในประเทศไทย โดยแนะนำให้เป็นแบบรวมเม็ด เนื่องจากเป็นสูตรที่ได้ผลในการควบคุมไวรัสได้ดี มีผลข้างเคียงน้อย และใช้วันละครั้ง และดื้อยายากกว่าเมื่อเทียบกับกลุ่ม NNRTIs และ integrase inhibitors ตัวก่อนๆ อันตรกิริยาน้อยกว่าเมื่อเทียบกับยาสูตรอื่น
ประสิทธิภาพของ Dolutegravir (DTG) ซึ่งเป็นตัวยาหลักในโคซิตาฟ ได้รับการพิสูจน์จากการศึกษาทางคลินิกหลายการศึกษาว่า มีประสิทธิผลเหนือกว่า Efavirenz (EFV) ในผู้ป่วยที่ไม่เคยได้รับการรักษามาก่อน
ซื้อ Kocitaf ได้ที่ไหน
โคซิทาฟเป็นยาที่ต้องรับจากสถานพยาบาล คลินิก หรือโรงพยาบาล ที่มีแพทย์สั่งจ่าย ไม่ใช่การซื้อยาผ่านร้านขายยาธรรมดาหรือออนไลน์อย่างเสรี เนื่องจากเป็นยาควบคุม
จำเป็นต้องพบแพทย์ก่อนซื้อไหม
จำเป็นต้องพบแพทย์ก่อนทุกครั้ง เนื่องจากยาต้านไวรัส HIV เป็นยาควบคุม ต้องมีการประเมินความเหมาะสม, ตรวจเลือด/สถานะ HIV ก่อนแพทย์จะสั่งจ่ายยา
สถานพยาบาลหรือคลินิกที่ให้บริการ PEP
บริการรับยาเป๊ปสามารถรับได้ที่สถานพยาบาลที่มีแพทย์ประเมิน เช่น คลินิกเวชกรรม โรงพยาบาลรัฐหรือเอกชน ซึ่งมีบริการตรวจเลือดและจ่ายยาตามมาตรฐานทางการแพทย์ โดยควรเข้ารับการประเมินโดยเร็วที่สุดภายใน 72 ชั่วโมงหลังมีความเสี่ยง
พบแพทย์เพื่อประเมินความเสี่ยงก่อนรับยาใช้ Kocitaf แล้วต้องตรวจ HIV ซ้ำกี่ครั้ง
กรณีใช้เป็นยาเป๊ป แพทย์จะนัดตรวจติดตาม 2 ครั้งหลังกินยา ได้แก่ ที่ 1 เดือน (หลังเริ่มยา) และ 3 เดือนหลังกินยา เพื่อตรวจ HIV ให้แน่ใจว่าไม่มีการติดเชื้อ และเพื่อติดตามอาการข้างเคียงที่เกิดได้จากการกินยา
เอกสารอ้างอิง
- เอกสารกำกับยา Kocitaf: Dolutegravir/Emtricitabine/Tenofovir Alafenamide 50/200/25 mg. (Thai Medication Guide).
บทความที่น่าสนใจ
- ยาเป๊ป ยาต้านเอดส์ฉุกเฉิน ป้องกัน HIV
- Acriptega ยาต้านไวรัส HIV พร้อมคำแนะนำการใช้ยา
- Dalavir ยาต้านและยับยั้งไวรัสเอชไอวี อ่านเล่ย!
- Biktarvy คืออะไร? ก่อนกินต้องรู้!
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
อินทัชเมดิแคร์คลินิกเวชกรรม
คลินิกเวชกรรม
แก้ไขล่าสุด : 10/12/2025
ตรวจสอบความถูกต้องโดย: แพทย์หญิงภัทราพร ศรีพระคุณ
อนุญาตให้ใช้งานภาพโดยไม่ต้องขออนุญาต เฉพาะในเชิงให้ความรู้ หรือเพื่อการศึกษาเท่านั้น โดยต้องให้เครดิตหรือแสดงแหล่งที่มาของ intouchmedicare.com


