โรคหัวใจและหลอดเลือดเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของคนไทย โดยเฉพาะในวัยทำงานและผู้สูงอายุ หลายคนอาจไม่มีอาการผิดปกติชัดเจนในระยะแรก แต่เมื่อเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น หัวใจวายเฉียบพลันหรืออัมพฤกษ์ อัมพาต อาจสายเกินไปในการรักษา
ดังนั้น การตรวจความเสี่ยงโรคหัวใจและตรวจสุขภาพหลอดเลือดจึงเป็นสิ่งสำคัญ
เรื่องน่ารู้ก่อนตรวจโรคหัวใจและหลอดเลือด
- ใครบ้างที่ควรตรวจความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด
- ราคาตรวจความเสี่ยงโรคหัวใจและตรวจสุขภาพหลอดเลือด
- การตรวจสุขภาพประกอบด้วยอะไรบ้าง
- ประโยชน์ของการตรวจสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด
- การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการตรวจ
- คำแนะนำหลังการตรวจ
- การดูแลสุขภาพหัวใจหลังการตรวจ

ใครบ้างที่ควรตรวจความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด
- มีอายุ 40 ปีขึ้นไป
- มีประวัติครอบครัวเป็นโรคหัวใจหรือหลอดเลือด
- มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง
- สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ ออกกำลังกายน้อย หรือมีภาวะน้ำหนักเกิน
- มักเจ็บหน้าอก เหนื่อยง่าย ใจสั่นหรือบวมขาบ่อย ๆ
ราคาตรวจความเสี่ยงโรคหัวใจและตรวจสุขภาพหลอดเลือด
- ตรวจความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด ราคา 4,990 บาท
- หมายเหตุ : ราคานี้รวมค่าแพทย์และค่าบริการคลินิกแล้ว

การตรวจสุขภาพประกอบด้วยอะไรบ้าง
ไลโพโปรตีน (Lipoprotein – Lp(a))
เป็นโปรตีนที่จับกับไขมัน LDL (ไขมันชนิดไม่ดี) ซึ่งมีผลต่อการเกิดโรคหลอดเลือดอุดตัน หาก Lp(a) สูงเป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด แม้ว่าระดับไขมัน LDL จะปกติ
กรดอะมิโนโฮโมซิสเทอีน (Homocysteine)
กรดอะมิโนที่ร่างกายใช้ในกระบวนการเผาผลาญโปรตีน หากระดับ Homocysteine สูง อาจทำให้หลอดเลือดแข็งตัว เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดสมอง
ไฟบริโนเจน (Fibrinogen)
ไฟบริโนเจนเป็นโปรตีนที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการแข็งตัวของเลือด หากระดับสูงเกินไป อาจเพิ่มโอกาสเกิดลิ่มเลือดอุดตัน ซึ่งนำไปสู่โรคหัวใจขาดเลือดและหลอดเลือดสมอง
CRP-hr (C-Reactive Protein High Sensitivity)
เป็นโปรตีนที่ร่างกายผลิตขึ้นเมื่อมีการอักเสบ หากระดับ CRP-hr สูงบ่งบอกถึงภาวะอักเสบในหลอดเลือด ซึ่งสัมพันธ์กับความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด
ประโยชน์ของการตรวจสุขภาพความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด
- ค้นหาความเสี่ยงและป้องกันก่อนเกิดโรคร้ายแรง
- ปรับพฤติกรรมสุขภาพเพื่อลดความเสี่ยง เช่น การควบคุมอาหาร การออกกำลังกาย และการใช้ยา
- เพิ่มโอกาสในการรักษาให้ได้ผลดีขึ้น หากพบโรคในระยะเริ่มต้น

การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการตรวจ
- งดอาหารและเครื่องดื่ม (ยกเว้นน้ำเปล่า) 8-12 ชั่วโมง หากต้องตรวจระดับน้ำตาลและไขมันในเลือด
- งดดื่มแอลกอฮอล์และคาเฟอีน เช่น กาแฟ ชา 24 ชั่วโมงก่อนตรวจสมรรถภาพหัวใจ
- งดสูบบุหรี่ก่อนตรวจอย่างน้อย 4 ชั่วโมง เพื่อให้ผลการตรวจความดันโลหิตและคลื่นไฟฟ้าหัวใจแม่นยำขึ้น
- สวมเสื้อผ้าที่สบายและรองเท้าที่เหมาะสม โดยเฉพาะหากต้องทดสอบสมรรถภาพหัวใจ (EST)
- แจ้งแพทย์เกี่ยวกับยาและอาหารเสริมที่รับประทานอยู่ บางชนิดอาจมีผลต่อการตรวจ เช่น ยาลดความดัน ยาลดไขมัน หรือยารักษาโรคเบาหวาน
คำแนะนำหลังการตรวจ
- หากตรวจพบความผิดปกติ แพทย์อาจแนะนำให้ตรวจเพิ่มเติม เช่น Echocardiogram (อัลตราซาวนด์หัวใจ) หรือ CT Calcium Score (ตรวจหาคราบหินปูนในหลอดเลือดหัวใจ)
- ในกรณีที่มีความเสี่ยงสูง อาจต้องพบแพทย์เฉพาะทางโรคหัวใจเพื่อวางแผนการรักษาและปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
- สำหรับผู้ที่มีค่าตรวจอยู่ในระดับปกติ ควรตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี และดูแลสุขภาพต่อเนื่อง

การดูแลสุขภาพหัวใจหลังการตรวจ
- ควบคุมอาหาร เลือกกินอาหารที่ดีต่อหัวใจ เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืช และเลี่ยงอาหารไขมันสูง
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เช่น เดินเร็ว ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน อย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน
- พักผ่อนให้เพียงพอและลดความเครียด เพราะความเครียดเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้หลอดเลือดตีบ
- หมั่นตรวจสุขภาพและติดตามผลการตรวจจากแพทย์เป็นระยะ
สรุป
ตรวจสุขภาพความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือดเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงหรือมีพฤติกรรมเสี่ยง เพื่อป้องกันโรคร้ายแรงและดูแลสุขภาพให้แข็งแรงในระยะยาว
หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมสามารถปรึกษาแพทย์หรือเจ้าหน้าที่คลินิกของเราได้เลยค่ะ

พญ.วรางคณา วิวัลย์ศิริกุล
แพทย์เวชปฏิบัติทั่วไป
แก้ไขล่าสุด : 25/02/2025
อนุญาตให้ใช้งานภาพโดยไม่ต้องขออนุญาต เฉพาะในเชิงให้ความรู้ หรือเพื่อการศึกษาเท่านั้น โดยต้องให้เครดิตหรือแสดงแหล่งที่มาของ intouchmedicare.com